สธ. เร่งฉีดวัคซีนกลุ่ม 608 หลังโควิด-19 ระบาด “ระลอกเล็ก”
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทย มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์ทั่วโลก ล่าสุดกระทรวงสาธารณสุข ออกมาระบุว่าเป็นการระบาดระลอกเล็ก

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวเมื่อ 25 พ.ย. ว่า ขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น ส่วนผู้ป่วยเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น 10-20% ผู้เสียชีวิตไม่มากนัก เฉลี่ยไม่เกิน 10 ราย/วัน แต่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จึงต้องติดตามใกล้ชิด
จากการประชุมร่วมกับผู้อำนวยการโรงพยาบาลทั่วประเทศ รายงานว่าแต่ละแห่งยังรองรับสถานการณ์ได้แม้ผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง รักษาแบบผู้ป่วยนอก แพทย์ให้ยาตามที่วินิจฉัย ส่วนการรักษาในโรงพยาบาล ยังไม่ได้เพิ่มขึ้นแบบมีนัยสำคัญจนต้องเพิ่มมาตรการ
“ส่วนผู้สูงอายุที่มีข่าวเสียชีวิตที่บ้านช่วงนี้ คงต้องไปดูการเสียชีวิตแต่ละราย หลายรายอาการไม่เหมือนโควิด อยู่ ๆ เสียชีวิต ไปตรวจเอทีเคพบ (ผลเป็นพวก) แต่การตรวจเอทีเคเป็นการคัดกรองเบื้องต้น การวินิจฉัยยืนยันต้องตรวจรายละเอียดมากกว่านั้น กรมควบคุมโรคจะลงไปดูรายละเอียด” นพ.โอภาสกล่าว

ปลัด สธ. ระบุด้วยว่า การระบาดรอบนี้ทุกอย่างยังเป็นไปตามที่คาดการณ์ เป็นลักษณะ Small Wave (การระบาดระลอกเล็ก) การมีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเพิ่มขึ้นก็ยังอยู่ในการคาดการณ์ จะเพิ่มตามวงรอบคือ ช่วง พ.ย. และ ธ.ค. โดยหลังปีใหม่จะค่อยลดลง
นพ.โอภาสยังสั่งการให้กำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนระยะนี้อย่างจริงจัง โดยให้ทุกโรงพยาบาลในสังกัด สธ. จัดจุดบริการฉีดวัคซีนโควิดตามเหมาะสม โดยเฉพาะกลุ่ม 608 คือ ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์
พบผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 565 ราย/วัน ตาย 9 ราย/วัน
บีบีซีไทยตรวจสอบข้อมูลจากกรมควบคุมโรค ซึ่งรายงานสถานการณ์โควิด-19 ในไทยเป็นรายสัปดาห์ พบว่า
- สัปดาห์แรกของเดือน (30 กย.-5 พ.ย.) พบผู้ป่วยรายใหม่ 2,759 ราย เฉลี่ย 394 ราย/วัน และผู้เสียชีวิต 40 ราย เฉลี่ย 5 ราย/วัน
- สัปดาห์ที่สองของเดือน (6-12 พ.ย.) พบผู้ป่วยรายใหม่ 3,166 ราย เฉลี่ย 452 ราย/วัน และผู้เสียชีวิต 42 ราย เฉลี่ย 6 ราย/วัน
- สัปดาห์ที่สามของเดือน (13-19 พ.ย.) พบผู้ป่วยรายใหม่ 3,957 ราย เฉลี่ย 565 ราย/วัน (เพิ่มขึ้นในสัดส่วน 25% หากเทียบกับสัปดาห์ที่สองของเดือน) และผู้เสียชีวิต 69 คน เฉลี่ย 9 ราย/วัน

ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานข่าวการเสียชีวิตของประชาชนซึ่งตรวจเอทีเคพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ในหลายกรณี แต่ทั้งหมดนี้ไม่ยืนยันว่าเสียชีวิตจากโควิดหรือไม่ เพราะอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและรอผลชันสูตร
- อาม่าวัย 91 ปี เสียชีวิตขณะนั่งรถแท็กซี่กลับบ้านพร้อมกับครอบครัว หลังกลับจากโรงพยาบาล เมื่อ 21 พ.ย. โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ตรวจเอทีเคอาม่า พบว่าขึ้น 2 ขีด
- ชายอายุ 38 ปี ติดเชื้อโควิด-19 ก่อนเสียชีวิตอยู่ในคอนโดมิเนียม เมื่อ 23 พ.ย. จากข้อมูลการสอบสวนโรคเบื้องต้นโดยสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค และสำนักอนามัยกรุงเทพมหานคร พบว่า ชายคนดังกล่าวได้รับวัคซีน 3 เข็ม โดยเข็มสุดท้ายฉีดเมื่อเดือ ม.ค. 2565 นานกว่า 10 เดือนแล้ว ขณะนี้รอผลการชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตจากสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ
- พนักงานรักษาความปลอดภัย อายุ 43 ปี เสียชีวิตคาป้อมยาม เมื่อ 25 พ.ย. ผลตรวจเอทีเคพบว่าเป็นบวก
- ชายวัย 60 ปี เสียชีวิตในบ้านพักกลางซอยสาทร 11 แขวงยานนาวา เมื่อ 25 พ.ย. ผลตรวจเอทีเคพบว่าเป็นบวก
นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ขอความร่วมมือให้ประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง 608 เข้ารับวัคซีน เพราะมีการป่วยตายจากโควิด-19 มากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมดที่รายงานในแต่ละวัน และกลุ่มนี้ หากรับวัคซีนครบแล้วและเข็มล่าสุดนานเกิน 4 เดือนขึ้นไป ให้เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งจะสามารถป้องกันการป่วยหนักและลดโอกาสเสียชีวิตได้