ไทยแสนชิล ถ้าไม่รีบฉีด “วัคซีนโควิด-19” ต้องอยู่แบบนี้นานแค่ไหน?
สำหรับจำนวน “วัคซีนโควิด-19” ที่ “รัฐบาลไทย” ทำสัญญาสั่งซื้อไปมีด้วยกัน 2 ตัว รวม 63 ล้านโดส แบ่งเป็น วัคซีนแอสตราเซเนกา (AstraZeneca) และมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด (Oxford) 61 ล้านโดส กับซิโนแวค ไบโอเทค (Sinovac Biotech) อีก 2 ล้านโดส
ซึ่งจากจำนวนที่ว่านี้ หากเทียบกับจำนวนประชากรแล้ว มีความครอบคลุมเพียง 45% หรือประมาณ 32 ล้านคน แต่นี่ก็ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปลายปีที่แล้วเกือบ 3 เท่าที่ตอนนั้นครอบคลุมเพียง 19% เท่านั้น

แล้ว 2 ตัวที่ไทยเลือกซื้อนี้ มีประสิทธิภาพดีมากแค่ไหน?
ตัวแรก “วัคซีนซิโนแวค ไบโอเทค” (Sinovac Biotech) ที่เราจะได้รับมาฉีดก่อนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ จำนวน 2 ล้านโดส ปัจจุบันจากการทดสอบมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 50%
ส่วน “วัคซีนแอสตราเซเนกาและออกซ์ฟอร์ด” (AstraZeneca-Oxford) มีการทดลองไปแล้วกว่า 65,000 คน มากกว่าวัคซีนซิโนแวค 2.5 เท่า และมีประสิทธิภาพล่าสุดอยู่ที่ 70% ซึ่งก่อนที่ผลการทดสอบล่าสุดจะออกมานี้ วัคซีนแอสตราเซเนกามีการสั่งจองจากบรรดาประเทศต่างๆ มากกว่า 3,000 ล้านโดส มากกว่าวัคซีนท้าชิงรายอื่นๆ ถึง 2 เท่า
จากวัคซีน 2 ตัวที่ว่านี้ ถ้านับทั่วโลกตอนนี้ที่มีการพัฒนาโดยรวมแล้วมีทั้งหมดกว่า 15 ตัว แต่ที่มีการทำสัญญากับหลายๆ ประเทศมีอยู่ 9 ตัว เช่น ไฟเซอร์-ไบออนเทค (Pfizer/BioNTech), โมเดอร์นา (Moderna), จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (Johnson & Johnson) และในจำนวนนี้ก็มีที่นำมาฉีดแล้วรวม 7 ตัวในอย่างน้อย 76 ประเทศ

ถ้าถามว่า แล้ว “วัคซีน” ตัวไหนที่ประสิทธิภาพดีสุดในตอนนี้?
หากเทียบขนาดการทดลองแล้ว ก็ต้องบอกว่า “จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน” (Johnson & Johnson) น่าจับตาพอสมควร เพราะจากการทดลองในอาสาสมัคร 70,000 คน มีประสิทธิภาพถึง 66% กำลังขึ้นแท่นเป็นผู้นำในบรรดาผู้ท้าชิงวัคซีนทั้งหมด โดยเฉพาะเมื่อผลทดสอบออกมาว่า ฉีดแค่เพียง 1 โดสก็ได้ประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยมแล้ว แถมยังเก็บรักษาในอุณหภูมิความเย็นมาตรฐานได้อีกด้วย แต่…หากใครที่เป็นกังวลว่า แล้วการฉีด 1 โดสของวัคซีนจอห์นสันฯ ได้ผลจริงหรือไม่? เพราะวัคซีนตัวอื่นๆ ต้องการ 2 โดสหมดเลย เพื่อความสบายใจ…ทางจอห์นสันฯ ก็ประกาศว่าจะมีการวินิจฉัยการทดสอบการฉีดวัคซีน 2 โดสในการยืนยันประสิทธิภาพ