แม้ขณะนี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิดรายวันของไทย ยังไม่ลดลง จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก โดยเฉพาะ จ.สมุทรสาคร แต่เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ ที่ประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ได้ผ่อนคลายมาตรการ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ ให้มีผลวันที่ 1 ก.พ.
- สถานการณ์ใน จ.สมุทรสาคร พบผู้ติดเชื้อไม่หยุด เป็นจังหวัดเดียวจาก 23 จังหวัด ยังเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือสีแดง ไม่ได้รับการผ่อนคลายมาตรการให้เปิดสถานที่เสี่ยง เช่น ผับ บาร์ คาราโอเกะ อาบอบนวด ยกเว้นตลาด ร้านอาหาร ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่พักผู้สูงอายุ และโรงแรมที่พัก สามารถเปิดได้ ภายใต้มาตรการที่กำหนด
- ส่วน กทม. สมุทรปราการ นนทบุรี และปทุมธานี เป็นพื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม ยังคงให้ปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ส่วนร้านอาหาร เปิดได้ถึงเวลา 23.00 น. ให้งดดื่มแอลกอฮอล์ที่ร้าน และการประชุมจัดเลี้ยง เปิดได้ แต่จำกัดคนไม่เกิน 100 คน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดแสดงดนตรีที่มีการเต้นรำ ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดตามเวลาปกติ งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และศูนย์ประชุมสามารถเปิดได้
- ขณะที่อีก 72 จังหวัด ถูกจัดเป็นพื้นที่ควบคุม ไปจนถึงพื้นที่เฝ้าระวังสูง และพื้นที่เฝ้าระวัง ตามสถานการณ์ของแต่ละพื้นที่ โดยอนุญาตให้เปิดผับ บาร์ คาราโอเกะ ขายแอลกอฮอล์ได้ถึง 23.00 น. และร้านอาหารเปิดได้ถึง 23.00 น. และ 24.00 น. ขึ้นอยู่กับแต่ละพื้นที่ รวมถึงอาบอบนวด สปา นวดแผนไทย เปิดได้แต่จำกัดคน
- กระทรวงศึกษาธิการ มีคำสั่งให้ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่และบุคลากรในสังกัด ปฏิบัติราชการ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. ยกเว้นจ.สมุทรสาคร ยังคงปฏิบัติงานในสำนักงาน 25% ส่วนผู้บริหาร ครู ในสถานศึกษาให้กำหนดแนวทางจัดการเรียนการสอน โดยไม่ต้องเข้าชั้นเรียน
- กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หารือกระทรวงแรงงาน พิจารณาหาแนวทางช่วยเหลือแรงงานและผู้ประกอบการภาคท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบ อาจนำมาตรการ “โค-เพย์” จ่ายคนละครึ่งมาใช้ โดยรัฐบาลและผู้ประกอบการร่วมจ่ายค่าจ้างให้พนักงานคนละครึ่ง ฝ่ายละ 7,500 บาทต่อเดือน รวมแล้วไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน เพื่อพยุงการจ้างงานต่อไป
- ล่าสุด กทม. ยกเลิกตั้งด่านตรวจคัดกรองการเดินทางเข้าพื้นที่ ตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันที่ 29 ม.ค.เป็นต้นไป พร้อมกำชับสำนักงานเขต ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ท้องที่ เข้มข้นการตรวจ แนะนำสถานประกอบการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคตามที่ทางราชการกำหนด